้พบพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง
มีนามว่าพระพุทธทีปังกรเจ้า
ได้ตั้งปรารถนาไว
้ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้า
เช่นพระองค์ท่าน
จำเดิมแต่นั้น
ก็ทรงบำเพ็ญบารมี ๑๐
ประการ มีทานบารมี
เป็นต้น
อุเบกขาบารมีเป็นที่สุด
บำเพ็ญเป็นเวลานับด้วยกัลป์
สิ้นภพชาติอันประมาณมิได้
พระชาติสุดท้าย
บังเกิดเป็นพระเวสสันดรโพธิสัตว์
ก็ทรงสร้างทานบารมีอย่างยอดเยี่ยม
สิ้นจากชาตินี้ก็ขึ้นไป
อุบัติในสวรรค์ชั้นดุสิต
เป็นเทพบุตรชื่อว่า "สันดุสิตเทวราช"
เทพยดาในหมื่นจักรวาล
จึงมาประชุมกัน
ในสวรรค์ชั้นดุสิต
ต่างยกหัตถ์ทั้งคู่ชูอัญชลีกร
ทูลอาราธนาว่า "ข้าแต่พระมหาวีระ
กาลบัดนี้สมควรที่พระองค์
จะจุติลงไปบังเกิดใน
มาตุคัพโภทร
เพื่อชนสัตว์นิกร
ในมนุษย์โลกกับทั้งเทวโลก
ข้ามให้พ้นจากห้วง
แห่งความเวียนตายเวียนเกิด
อันมิรู้จักจบสิ้น
ให้รู้จริงบรรลุถึงทางปฏิบัติ
ซึ่งเข้าสู่พระอมตมหานิพพาน"
พระโพธิสัตว์ทรงพิจารณาดู
ปัญจมหาวิโลกนะทั้ง ๕
คือ กาล ๑ ทวีป ๑ ประเทศ ๑
ตระกูล ๑ พระมารดา ๑
แล้วจึงทรงรับปฏิญาณ
เสด็จแวดล้อมด้วยเทพยบริวาร
ไปสู่ทิพยนันทวันอุทยาน
ในดุสิตเทวโลก
และจุติลงสู่ปฏิสนธ
ิในพระครรภ์แห่ง
พระนางสิริมหามายาราชเทวี
พระอัครมเหสี
แห่งพระเจ้าสุทโธทนมหาราช
กรุงกบิลพัสดุ์ ณ
ชมพูทวีป
ในวันอาสาฬหปุรณมีเพ็ญเดือน
๘
|