ภาพที่
๒๔ พระมหาบุรุษ
ผจญพญาวัสวดีมาราธิราช
ขณะนั้น พญาวัสวดีมาร
เห็นพระมหาบุรุษจะพ้น
จากอำนาจของตน
จึงระดมยกพลพยุหเสนามาร
มีพลช้าง พลรถ พลม้า
พร้อมด้วยศัสตราวุธนานาชนิดมาประชิดอาสนะบัลลังก์
หมายมั่นที่จะจู่โจมทำลาย
และให้พระมหาบุรุษตกพระทัยเสด็จหนีไปเสีย
พระองค์ได้น้อมพระหฤทัย
ถึงพระบารมีธรรม ๑๐
ทัศที่ทรงบำเพ็ญมาแล้วในอดีต
มิได้ทรงสะดุ้งตกพระทัย
แต่ประการใด
ทรงอธิษฐานพระปฐพีมณฑลเป็นสักขีพยาน
เสี่ยงพระบารมีธรรมเข้าช่วยผจญมาร
ด้วยเดชะอำนาจพระบารมีธรรมนั้น
พระนางธรณีเทพยดาผู้รักษาแผ่นดิน
จึงแปลงเพศเป็นหญิงมายืนปรากฏกาย
อยู่ภายใต้อาสนะบัลลังก์อธิษฐาน
แล้วบีบพระเกศาเป็นอุทกธาราไหลหลั่ง
ท่วมท้นพญามารและเสนามาร
ให้ปลาสนาการพ่ายแพ้ไปหมดสิ้น
แต่พระอาทิตย์ยังมิทันอัสดง
หลังจาดนั้นพระองค์ก็ทรงพ้น
จากภยันตรายน้อยใหญ่
ทรงตั้งมโนปณิธาน
บำเพ็ญเพียรทางใจต่อไป
จนได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธะ
ณ ราตรีเพ็ญวิสาขมาสนั้น
ภาพนี้เขียนขึ้นด้วยมโนภาพ
ที่แสดงให้เห็นว่า
พระมหาบุรุษเจ้าต้องผจญ
ต่ออุปสรรคของการบรรลุมรรค
ผลนานาประการ
อันเกิดขึ้นด้วยอำนาจกิเลส
ในส่วนที่เป็นโลภะ โทสะ
โมหะ ตัณหา ราคะ อรติ
อันเป็นมารน้อยมารใหญ่
เป็นชนวนบั่นทอนมิให้บุคคลบรรลุมรรคผล
ซึ่งเป็นความดีความงามที่ทุก
ๆ คนปรารถนา
แต่การที่พระมหาบุรุษเจ้า
ทรงมีชัยชนะต่อมาร
ผู้ล้างผลาญความดีงาม
ภายในเหล่านี้ได้ก็เพราะอำนาจ
บารมีธรรมที่ได้ทรงอบรมมาแล้วด้วยดี
มีทาน ศีล เมตตา ขันติ
เป็นต้น
และเพราะเหตุนั้น
พระองค์จึงทรงสามารถ
บรรลุอมตธรรมได้ในที่สุด
|